=FLOOR(number,significance)
=FLOOR(จำนวน,significance)
ตัว Significance นี้ให้มองเสมือนตัวหารตัวหนึ่ง และถ้าหารไม่ลงตัว Excel จะปัดค่าเศษนั้นโดย"ปัดลง"ให้เป็นจำนวนเต็มเพื่อให้หารด้วยตัว Significanceนี้ ได้ลงตัว
จำไว้ว่า FLOOR ปัดให้ติดพื้น
ตัวอย่าง เช่น
อธิบายได้ว่า
=FLOOR(1,3) ผลลัพธ์ 0 เกิดจาก 1/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 0
=FLOOR(2,3) ผลลัพธ์ 0 เกิดจาก 2/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 0
=FLOOR(3,3) ผลลัพธ์ 3 เกิดจาก 3/3 ลงตัวพอดี
=FLOOR(4,3) ผลลัพธ์ 3 เกิดจาก 4/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 3
=FLOOR(5,3) ผลลัพธ์ 3 เกิดจาก 5/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 3
=FLOOR(6,3) ผลลัพธ์ 6 เกิดจาก 6/3 ลงตัวพอดี
=FLOOR(7,3) ผลลัพธ์ 6 เกิดจาก 7/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 6
=FLOOR(8,3) ผลลัพธ์ 6 เกิดจาก 8/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 6
=FLOOR(9,3) ผลลัพธ์ 9 เกิดจาก 9/3 ลงตัวพอดี
=FLOOR(10,3)ผลลัพธ์ 9 เกิดจาก 10/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 9
=FLOOR(11,3) ผลลัพธ์ 9 เกิดจาก 11/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 9
=FLOOR(12,3) ผลลัพธ์ 12 เกิดจาก 12/3 ลงตัวพอดี
=FLOOR(13,3) ผลลัพธ์ 12 เกิดจาก 13/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 12
=FLOOR(14,3) ผลลัพธ์ 12 เกิดจาก 14/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 12
=FLOOR(15,3) ผลลัพธ์ 15 เกิดจาก 15/3 ลงตัวพอดี
=FLOOR(16,3) ผลลัพธ์ 15 เกิดจาก 16/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 15
=FLOOR(17,3) ผลลัพธ์ 15 เกิดจาก 17/3 ไม่ลงตัว จึงปัดลง เป็น 15
ตัวอย่างการนำไปใช้
จากตารางต้องการให้ข้อมูลจากคอลัมน์ A มาเรียงกันเป็นชุด ชุดละ 3 เรียงต่อกันลงมาที่คอลัมน์ C
ทำได้หลายๆวิธี แต่ในที่นี้จะใช้ FLOOR + INDEX
1.ที่เซลล์ C1 พิมพ์ =INDEX($A$1:$A$5,FLOOR(ROW(A3),3)/3)
2. Copy สูตรลงล่าง
ให้สังเกตุ ในข้อนี้สูตรที่ C1 นั้นจะเริ่มที่ ROW(A3).. ไม่ได้เริ่มที่ ROW(A1) เนื่องจาก เพื่อความเหมาะสมในการแก้ปัญหานั่นเอง ถ้าเริ่มที่ ROW(A1) จะหาค่าแรกยาก เพราะ FLOOR จะปัดลงเป็น 0
โจทย์ข้อนี้ เหมือนกับ โจทย์ที่ให้ไว้ในการใช้ CEILING ลองสังเกตุเปรียบเทียบกันดู