LEFT ใช้เลือกตัวอักษร หรือตัวเลข หรือ Character ต่างๆ ของเซลล์ใดๆ โดยนับจากซ้ายมาขวา นับตัวแรกเป็น 1 มา 2 มา 3 ...ไปเรื่อยๆ และค่าว่างจะถูกนับด้วย
โครงสร้างทางไวยากรณ์ =Left( text, number_of_characters )
แปลตามภาษาง่ายๆได้ว่า =Left(เซลล์อ้างอิง,จำนวนอักษร(ตัวเลข)ที่เลือกมา)
ตัวอย่าง
ข้อสังเกตุ
หากไม่ระบุ จำนวนหลังเซลล์อ้างอิงจะถือว่าให้เอามาเพียงตัวเดียวเสมอ เช่นจากตัวอย่าง ด้านบน คำว่า Microsoft Excel อยู่ที่เซลล์ B2
ถ้าพิมพ์ =LEFT(B2) จะได้ผลลัพท์เป็น M (เอาจากทางซ้ายมาตัวเดียว)
กรณีที่เป็นตัวเลข
ในการใช้ฟังก์ชั่น LEFT ผลลัพท์จะถูกส่งค่าออกมาเป็น Text เสมอ
เช่น =LEFT("5678",1) ผลลัพท์จะได้ 5 และExcel จะมองเป็น Text (ตัวเลขจะชิดซ้ายของเซลล์)
หรือ =LEFT(5678,1) ผลลัพท์จะได้ 5 และ Excel จะมองเป็น Text (ตัวเลขจะชิดซ้ายของเซลล์)
หากไม่ต้องการให้ตัวเลขชิดซ้ายของเซลล์ ให้เพิ่ม +0 เข้าไปในสูตรหรือ พิมพ์ -- หน้าสูตรดังนี้ หรือพิมพ์*1 (คูณด้วย 1) ต่อท้ายสูตร
=LEFT("5678",1)+0 หรือ =--LEFT("5678",1) หรือ=LEFT("5678",1)*1
=LEFT(5678,1)+0 หรือ =--LEFT(5678,1) หรือ=LEFT(5678,1)*1
กรณีที่เป็นจุดทศนิยมก็จะคล้ายๆกัน
ดูตัวอย่าง
อีกกรณีที่เจอบ่อยๆ คือ ชุดตัวเลขที่มีเลข 0 อยู่ด้านหน้าเช่น 007.. รหัสอันตราย..เจมส์บอนด์ (ขาดแค่สาวผมบรอนซ์กับรถสปอร์ตราคาแพงระยับไปเท่านั้นเอง)
กรณีที่ 1. ถ้าหากพิมพ์เข้าไปทั้ง 007 Excel จะนับว่ามี 3ตัว
กรณีที่ 2. ถ้าเกิดจากการพิมพ์เลข 7 ตัวเดียวแล้วสร้าง Format ให้เป็น 007 แบบนี้ Excel จะนับว่ามีเพียง 1 ตัวเท่านั้น
สมมุติว่า 007 ที่ว่าอยู่ที่เซลล์ A1 ถ้าใช้คำสั่ง LEFT ควรระวังดังนี้
=LEFT(A1,1) กรณีที่ 1. จะได้ผลลัพท์ 0 (Excel มองว่ามี 3 ตัว)
=LEFT(A1,1) กรณีที่ 2. จะได้ผลลัพท์ 7 (Excel มองว่ามี 1 ตัว)
ตัวอย่างน่าสนใจในการนำ LEFTไปประยุกต์ใช้กับ VLOOKUP
ต้องการให้หา Model ของ Item number แต่ละรายการ
จากตารางเทียบ Model เราต้องแยก Prefix 2 ตัวจาก Item Number ออกมาเพื่อจะทำ VLOOKUP ไปหา Model สามารถใช้ฟังก์ชั่น LEFT เพื่อแยกอักขระ 2 ตัวแรกออกมา
จะแสดงวิธีแยกสูตรที่ละครั้ง และการรวบสูตรเข้ามาเป็นสูตรเดียวกัน
วิธีแรก LEFT เพื่อแยก Prefixออกมา จากนั้นจึงไปทำVLOOKUP
วิธีที่สองคือ รวบ LEFT + VLOOKUP ไว้ในสูตรเดียวกัน
อธิบายสูตร
